ทางเลือกของชีวิต
Blog นี้เขียนไว้เตือนตัวเองและคนที่เข้ามาอ่าน อาจจะเขียนไม่ได้ดีเท่าไหร่ แค่อยากเขียนออกมาเพื่อเป็นอีกหนึ่งความทรงจำ
เรื่องทั้งหมดมันเกี่ยวกับเพื่อนของผมคนหนึ่งซึ่งได้เข้าไปอยู่ในวงเวียนการพนัน ผมขอแทนชื่อเพื่อนคนนี้ว่า A นะครับ ก่อนอื่นเลยต้องขอย้อนกลับไปตอนสมัยเรียน ผมก็มีเพื่อนอยู่กลุ่มนึงซึ่ง A นี่ก็อยู่ในกลุ่มนี้ด้วยเหมือนกัน เขาดูเป็นคนที่ซื่อสัตย์ เป็นคนดีไม่มีความคิดที่จะเข้ามาข้องเกี่ยวกับการพนันเลย เเต่หลังจากเรียนจบกลุ่มเพื่อนๆก็ได้เเยกย้ายออกไปหางานทำตามทางของตัวเอง วันเวลาผ่านไปกลุ่มเพื่อนของเราก็ได้มาเจอกันบ้างประปราย ซึ่งทุกคนก็ดูปกติไม่มีอะไร และได้มีการคุยกันหลายเรื่องทั้งในเรื่องงาน ความรัก แม้กระทั่งเรื่องเงิน และก็ได้มีประโยคนึงจาก A บอกมาว่าช่วงนี้มีงานนอกได้เงินประมาณอาทิตย์ละ 8000 ซึ่งผมกับเพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้แปลกใจอะไร ซึ่งไม่รู้ว่าเกี่ยวกับการพนันรึเปล่า นั้นเพราะ A ก็รับทำงานนอกอยู่แล้ว เวลาผ่านไปอีกหลายเรื่องเราเริ่มเจอกันน้อยลง วันนึงเพื่อนผมคนนี้ก็ทักแชท facebook บทสนทนาประมาณว่า ขอยืมเงิน 1หมื่นบาทไปจ่ายค่าไฟแนนซ์รถที่บ้านผมก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ก็ให้ยืมไปเพราะปกติแล้วเวลา A ยืมเงินก็จะคืนตลอด วันผ่านไปหลายวันก็ได้มีการคุยกับบ้างว่าเป็นไงบ้างจ่ายเงินไปรึยังที่บ้านเป็นยังไง และ A ก็ขอยืมเพิ่มอีก 5 พัน บอกว่าจะเอาไปจ่ายค่าหอ ผมก็เริ่มแปลกใจและถามต่อว่าเป็นอะไรรึเปล่ามีอะไรให้ช่วยไหม A ก็บอกว่าไม่มีอะไรจ่ายค่ารถไปแล้วไม่มีเงินจ่ายค่าหอ แล้วผมก็โอนเพิ่มให้อีก 5 พัน รวมเป็นหมื่นห้า ผมซึ่งเริ่มแปลกใจก็ไปถามเพื่อนคนอื่นๆ ว่า A ได้ยืมเงินไปรึเปล่าเพื่อนคนอื่นก็บอกยืมนะ ผมเริ่มแปลกใจมากขึ้นเมื่อรู้ว่า A เริ่มยืมเงินเพื่อนๆรอบตัว ซึ่งจากที่ A เล่าให้ผมฟัง เงินที่ต้องเอาไปจ่ายค่ารถประมาณ 4 หมื่นซึ่งจำนวนเงินที่ยืมนั้นมันมากกว่า 4หมื่นไปเยอะทีเดียว ต่อมาเริ่มมีกลุ่มเพื่อนรวมตัวกันเพราะอยากรู้ว่า A เอาเงินไปทำอะไร ยอดรวมเท่าไหร่และใครถูกยืมไปบ้าง ซึ่งในกลุ่มคนที่รวมตัวกันนั้นบางคนก็ได้ทำสัญญายืมเงินไว้ บ้างก็ไม่. กลุ่มคนที่รวมตัวกันเริ่มรู้ความจริงว่า A เอาเงินไปเล่นการพนัน ก็เริ่มเกิดความไม่พอใจ จะแจ้งความ เริ่มจะเอาเรื่องเพราะอยากได้เงินคืนไวๆ ซึ่งทางบริษัทที่ A ทำงานอยู่ก็ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยจัดการปัญหาต่างๆ ให้ โดยจะแบ่งเงินเดือนและงานนอกที่ทางบริษัทได้ให้ A ทำเพิ่มให้เจ้าหนี้ที่รีบใช้เงินก่อนเรียงลำดับกันลงไป ทุกอย่างดูจะจบลงด้วยดี เมื่องวดแรกจากงานนอกของ A ได้คืนกลุ่มแรกไป ผมก็คิดในใจว่าน่าจะมีหวังว่าจะได้เงินคืน แต่แล้วพอถึงสิ้นเดือนก็ได้ข่าวว่า A เอาเงินทั้งหมดที่ได้ไปเล่นการพนันอีกแล้ว และยังได้ขโมยอุปกรณ์การทำงานของบริษัทไปจำนำเพื่อเอาเงินไปเล่นการพนันอีก แต่เรื่องนี้คนในกลุ่มเจ้าหนี้ยังไม่รู้แต่เพื่อนสนิทกันสมัยเรียนรู้เรื่องและได้บอกให้ผมรู้ ซึ่งทางบริษัทก็ได้มีการตกลงกับ A ว่าให้เอาของมาคืนก่อน 6โมงเย็น แน่นอนว่า A ไม่ได้อยู่ต่อ ซึ่งทางบ้านของ A ก็ได้ส่งเงินช่วยเหลือ แต่แล้วก็ตกท่าเดิม ลงที่การพนัน ตอนนี้ทุกคนรู้เรื่องทั้งหมด บริษัทจะเอาเรื่องโดยการแจ้งความ แต่ก็ได้มีการตกลงเจรจากันก่อนไปโรงพัก ภาพที่ผมเห็นตอนนั้นมันติดตาผมไปอีกหลายวัน ภาพของเพื่อนคนเดิมที่นั่งเอามือกุมขมับ ร้องไห้ คอตก เสียงที่พี่ๆได้พูดกับ A ว่าเสียใจและผิดหวัง ห้องที่เงียบกับเสียงโทรศัพท์ที่โทรหาทางบ้านของ A ก็มีมาไม่ขาดสาย เสียร้องไห้ของ A เริ่มดังขึ้น เพราะไม่อยากติดคุก อยากทำงานต่อ ทุกคำสอนจากทุกคน ปนกับเสียงร้องไห้และผิดหวังเพิ่มมากขึ้น สุดท้ายจบลงที่ทางบ้าน A ยอมจ่ายเงินอีกก้อนเพื่อให้ทางบริษัทได้ของคืน แต่ยังไงก็ตาม A ก็ยังต้องไปโรงพักอยู่ดี แต่โชคของ Aยังดีที่ไม่ติดคุก เพราะตำรวจบอกว่าให้ไปแจ้งทนายและขึ้นศาลต่อไป ตอนนี้ได้แค่ลงบันทึกประจำวันไว้ เพื่อนผมที่บอกว่าจะให้ A มาอยู่ด้วยฟรีๆ ต้องขอปฏิเสธให้ A อยู่ต่อจึงต้องย้ายออก เรื่องจะเป็นยังไงต่อไป ใครจะได้เงินคืนบ้างอันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลย แต่ก็หวังว่าอยากให้ A เลิกเล่นการพนัน กลับมาทำงานสุจริตแบบเดิม ส่วนตัวผมก็ยังคิดกับ A ว่าเป็นเพื่อนเหมือนเดิม และรอวันที่ A เลิกการพนันได้ กลับมาเป็นคนเดิม เรื่องนี้ทำให้ผมคิดถึง podcast ตอนนึงที่คุยเกี่ยวกับทางเลือกของชีวิตเรา การที่เราเลือกทางของเรานั้นเเน่นอนมันไม่มีถูกหรือผิด แต่ทุกๆการเลือกของเราในวันนี่จะส่งผลในอนาคตว่าเราจะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นหรือลดลง เหมือนกับ A ที่ได้เลือกทางการพนัน ซึ่งทำให้ทุกวันนี้ A มีทางเลือกที่น้อยลงไปด้วย สุดท้ายนี้ผมก็อยากให้ blog นี้ได้ให้แง่คิด ไม่มากก็น้อยกับคนที่เข้ามาอ่าน และตัวผมเอง ภาพนั้นมันคงยังอยู่กับผมไปอีกนาน